ในปัจจุบันที่โลกแห่งดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในการทำการตลาดมากยิ่งขึ้นกว่าที่เคย จนเกิดคอนเทนต์ รวมทั้งโฆษณาในรูปแบบต่างๆ มากมายปรากฏให้เห็นในทุกช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะในรูปแบบตัวอักษร, รูปภาพ, วิดีโอ, เสียง หรือไลฟ์วิดีโอ
รูปแบบคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมเสมอมา และยังคงน่าจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ในการทำการตลาดออนไลน์นาทีนี้คงหนีไม่พ้น คอนเทนต์ในลักษณะ “วิดีโอ” ไม่จำเป็นว่าต้องเปิดช่อง Youtube หรือทำ Bumper Ads ไว้รันในแพลตฟอร์มนี้ เราก็ควรจะมีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอดีๆ สักตัวติดเครื่องไว้จริงไหมคะ
ข้อมูลจาก Infographic ของ Clum Creative ชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคกว่า 44 เปอร์เซ็นต์มีแนวโน้มที่จะศึกษารายละเอียดของสินค้าผ่านวิดีโอ และมีการคาดว่า ภายในปี 2023 การใช้งานบนโลกอินเทอร์เน็ตประมาณกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จะเป็นวิดีโอ
แต่การที่จะสร้างวิดีโอเพื่อสร้าง Engagement ให้ได้นั้น แค่มีไอเดียสตอรี่เจ๋งๆ หรือมีโปรดักชั่นถ่ายทำที่อลังการก็ยังไม่พอ เพราะการตัดต่อที่ดีเพื่อให้ footage ของวิดีโอที่ถ่ายทำมาถูกนำเสนอได้อย่างน่าสนใจถือเป็นหัวใจสำคัญของการทำวิดีโอมาร์เก็ตติ้ง
วันนี้เราเลยจะขอพาทุกคนมาส่องโปรแกรมตัดต่อวิดีโอทั้งแบบฟรีและแบบ Pro ที่ใช้งานง่ายบนเครื่องคอมพิวเตอร์ แถมแอปตัดต่อที่สามารถใช้งานได้ในอุปกรณ์มือถือหรือไอแพดด้วย รวมทั้งหมดกว่า 18 ตัว จะมีอะไรบ้างลองตามมาดูกันเลยค่ะ
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ (ฟรี/เสียเงิน) สำหรับ PC หลายระดับการใช้งาน
1. Lightworks
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังมีดีที่พกแถบเครื่องมือมามากมายพร้อมกับฟังก์ชั่นการใช้งานตัดต่ออย่างครบครันจนอาจเทียบเท่าได้กับโปรแกรมระดับโปร แต่สำหรับคนที่ยังเป็นมือใหม่เพิ่งหัดตัดต่อวิดีโอก็อาจจะมีความสับสนและคิดว่าใช้งานยากบ้างเล็กน้อย หากฝึกฝนใช้งานเรื่อยๆ ก็จะติดใจในความเทพอย่างแน่นอน
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Lightworks ก็คือ เครื่องมือให้เลือกเยอะจนสามารถตัดได้เทียบเท่าระดับโปร และสามารถทำงานได้แบบเรียลไทม์ เมื่อตัดต่อเสร็จแล้ว สามารถอัปโหลดวิดีโอขึ้นบนแพลตฟอร์ม Youtube, Facebook ฯลฯ ได้ทันที
ราคาสำหรับ Lightworks Pro : ประมาณ 876 บาท/เดือน และประมาณ 8,770 บาท/ปี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.lwks.com/
2. iMovie
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีสำหรับผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ mac หรือระบบปฏิบัติการ macOS ไม่เกี่ยงเรื่องที่ว่าจะใช้เป็นไม่เป็น แต่ขอแค่เพียงมีอุปกรณ์ของ mac ก็สามารถเข้าถึงโปรแกรมตัดต่อวิดีโอตัวนี้ได้ เพราะเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอที่ใช้งานได้ง่ายๆ แม้แต่เด็กๆ หัดใช้งานโปรแกรมนี้ก็สามารถใช้งานได้ โดยรวมเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอขั้นพื้นฐาน ที่อาจจะยังไม่ถึงขั้นรองรับการใช้งานในระดับโปรสเกลใหญ่ แต่สามารถตัดต่อได้ในระดับน่าพอใจ
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี iMovie ก็คือ ใช้งานง่าย และไม่หนักเครื่อง
ราคาสำหรับ iMovie : ฟรีสำหรับผู้ใช้งาน mac
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.apple.com/imovie/
3. Windows Movie Maker
เจอโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีสายใช้งานง่ายฝั่ง mac ไปบ้างแล้ว เราขอแนะนำโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ วินโดว์ที่เรียกได้ว่าใช้งานง่ายสุดๆ ไม่แพ้กัน แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ทาง Microsoft นั้นได้ประกาศปิดการให้บริการและให้ download โปรแกรมนี้แล้ว สำหรับ Window รุ่นใหม่ๆ ก็อาจจะต้องโบกมือลาโปรแกรมนี้ไป
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี iMovie ก็คือ ใช้งานง่าย และไม่หนักเครื่อง
ราคาสำหรับ Windows Movie Maker : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://windows-movie-maker-vista.th.softonic.com/download
4. Davinci Resolve
หากพูดถึงโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่โดดเด่นในเรื่องของการปรับสี และปรับคุณภาพของวิดีโอ ก็คงจะหนีไปไม่พ้น Davinci Resolve เป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ mac ที่ช่วยแก้ไขสี Color grading รวมถึงตัดต่อไฟล์วิดีโอ และปรับคุณภาพให้สูงระดับมืออาชีพ
แต่ที่น่าตื่นเต้นก็คือ อัปเดตล่าสุดของตัวโปรที่ต้องเสียเงิน เขาว่า มีระบบอัจฉริยะ Neural Engine เป็น AI ที่ช่วยทำงานในเรื่องการตัดต่อวิดีโอได้ในอีกระดับไม่ว่าจะเป็นจดจำใบหน้า, การลบวัตถุครั้งเดียวแล้วหายไปทั้งวิดีโอ เป็นต้น
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Davinci Resolve ก็คือ ปรับสีวิดีโอได้โทนสวยและได้คุณภาพไฟล์ระดับ Ultra-HD
ราคาสำหรับ Davinci Resolve : มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงิน DaVinci Resolve Studio ประมาณ 15,800 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.blackmagicdesign.com/products/davinciresolve/
5. Hitfilm Express
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่เรียกได้ว่า ครบเครื่อง เพราะสามารถทำได้ทุกสิ่งอย่างตามที่ใจต้องการ ตั้งแต่เรื่องตัดต่อวิดีโอปกติ ไปจนถึงการใส่เอฟเฟกต์ 2-3 มิติ เทียบเท่ากับการใช้โปรแกรมแบบมืออาชีพ แต่ตัวนี้จะเป็นโปรแกรมตัดต่อวิดีโอ PC ที่มีหน้าตาที่ค่อนข้างใช้ง่ายพอสมควร
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Hitfilm Express ก็คือ ตัดต่อง่าย มือใหม่ก็สามารถหัดใส่ VFX (Visual Effects) แบบ 2 มิติ และ 3 มิติได้
ราคาสำหรับ Hitfilm Express : ฟรี และประมาณ 5,700 บาท/ปี สำหรับใช้แบบโปร
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://fxhome.com/pricing
6. Openshot
อีกโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่เหมาะกับมือใหม่มากๆ เพราะว่าโหลดง่ายและใช้งานง่ายสุดๆ สามารถทำงานเติมเอฟเฟ็กต์เสียงเพลง หรือตัวอักษรต่างๆ ลงในวิดีโอได้ภายในโปรแกรมตัวนี้ หรือทำงานเชื่อมโยงกับโปรแกรม open source ตัวอื่นๆ ก็ได้ค่ะ ส่วนวิดีโอที่มีความละเอียดสูง เช่น 4K อาจจะยังพอสามารถใช้ได้ แต่ยังไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Openshot ก็คือ ใช้งานง่าย สามารถใช้ร่วมกับโอเพ่นซอร์สตัวอื่นๆ ได้ และมีระบบพรีวิวก่อนบันทึก
ราคาสำหรับ Openshot : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://openshot.th.softonic.com/
7. Adobe Premiere Pro
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอสุดเจ๋งที่หลายคนต้องรู้จัก เพราะไม่ว่าจะมือใหม่เริ่มหัดตัดต่อไปจนถึงระดับมือโปรขั้นเทพต่างก็ต้องใช้โปรแกรมนี้ ด้วยความที่โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีนี้ สามารถรองรับได้ทั้ง วิดีโอ ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวด้วยคุณภาพความคมชัดสูงถึง 4K 5K และ 6K อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่นในตระกูลของ Adobe ได้อีกด้วย
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Adobe Premiere Pro ก็คือ รองรับทุกความต้องการในการตัดต่อวิดีโอ และสามารถใช้งานได้ไม่ยากเนื่องจากมีวิดีโอสอนการใช้งานโปรแกรมตัดต่อวิดีโอบน youtube เยอะมาก แนะนำว่า ควรมี
ราคาสำหรับ Adobe Premiere Pro : มีให้ทดลองใช้ฟรี 7 วัน และต้องจ่ายต่อเดือนประมาณ 850 บาท
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.adobe.com/products/premiere.html
8. Filmora9 Business
โปรแกรมที่เรียกได้ว่า เบาสบายเหมาะสำหรับมือใหม่ เนื่องจากค่อนข้างใช้งานได้ง่ายมาก แถมในส่วนของโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีก็สามารถใช้งานได้ครบทุกฟีเจอร์แบบไม่มีกั๊ก เพียงแต่วิดีโอที่เราตัดมาไม่สามารถนำไปใช้งานหรือเผยแพร่ได้ เนื่องจาก ไฟล์วิดีโอที่ได้เขาจะติดลายน้ำขนาดใหญ่แทบจะบังทุกส่วนของวิดีโอไว้ ดังนั้นใครที่สนใจใช้งานจริงจังก็น่าจะต้องอุดหนุนด้วยการซื้อของเขานะคะ
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Filmora9 Business ก็คือ ใช้งานง่ายเหมาะสำหรับมือใหม่
ราคาสำหรับ Filmora9 Business : มีให้ทดลองใช้ฟรีแต่ต้องติดลายน้ำขนาดใหญ่ และแบบเสียเงินก็จะประมาณ 1,000 – 2,000 บาทต่อเดือนแล้วแต่แพ็คเกจที่เลือก
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://filmora.wondershare.com/shop/buy/buy-mac-video-editor.html
9. Sony Vegas
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอเฉพาะสำหรับวินโดว์ระดับมืออาชีพที่มักจะถูกใช้ในการตัดต่อที่ค่อนข้างเป็นงานจริงจัง และต้องการไฟล์คุณภาพสูง โดยเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีตัวนี้สามารถเลือกใส่ตัวอักษร เอฟเฟกต์ และเสียงประกอบต่างๆ ได้อย่างคมชัดจัดเต็ม
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Sony Vegas ก็คือ เหมาะกับงานจริงจังระดับมืออาชีพ รองรับไฟล์วิดีโอความละเอียดสูง
ราคาสำหรับ Sony Vegas : มีให้ทดลองใช้ฟรี 30 วัน และประมาณ 11,970 บาทสำหรับแบบ Pro
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.vegascreativesoftware.com/us/
10. VEED.IO
เอาหล่ะ! ใครไม่อยากโหลดโปรแกรมลงเครื่องให้ยุ่งยาก มาทางนี้ เพราะซอร์ฟแวร์สำหรับตัดต่อวิดีโอที่มีชื่อว่า VEED.IO ตัวนี้สามารถช่วยให้คุณตัดต่อวิดีโอได้บนเว็บเบราเซอร์เลย แถวเร็วและมีประสิทธิภาพ มีฟังก์ชันหลายอย่างมาก เหมาะกับการใช้งานตั้งแต่การตัดต่อแบบง่ายๆ ไปจนถึงการตัดต่อที่มีความซับซ้อนปานกลาง แน่นอนว่าถ้าจะตัดต่ออะไรหนักๆ อาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าหากจะตัดต่อคลิปลง Social Media คลิป Youtube ก็รับรองว่าเหมาะแน่ แถมยังรองรับทุกอุปกรณ์อีกด้วยนะ
จุดเด่นของโปรแกรมนี้ก็คือความ Simple ทั้งในแง่ของ Interface และในแง่ของการใช้งาน ใครที่ชอบอะไรง่ายๆ ก็รับรองว่าต้องชื่นชอบที่จะใช้งานแน่ๆ
ราคาของ VEED IO : มีให้เลือกตั้งแต่แผน Free แผน Basic ที่เริ่มต้นที่เดือนละประมาณ 440 บาท หรือ 12 USD และแผน Pro ที่เริ่มต้นที่ 24 USD (มีแผนสำหรับ Enterprise ด้วย)
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.veed.io/pricing
11. InVideo
อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูกัน แต่ InVideo เป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างคอนเทนต์วิดีโอที่ยอดเยี่ยมมาก เหมาะกับใครที่ทำธุรกิจเล็กๆ แล้วอยากทำคอนเทนต์วิดีโอให้กับแบรนด์ตัวเองเพื่อการรับรู้แบรนด์ในโซเชียลมีเดียต่างๆ เว็บของเค้าจะเหมาะกับเหล่านักการตลาด และนักทำคอนเทนต์ทั้งหลาย ที่อยากลองใช้เทมเพลตทำคอนเทนต์วิดีโอง่ายๆ ดู
เจ้าตัวเค้าโปรโมทว่าแพล็ตฟอร์มของเค้านั่นสามารถใช้ Tool บนเว็บได้ฟรี ไม่มีติดลายน้ำ
ส่วนราคาสำหรับ Plus อยู่ $20(730 บาท) และมีเวอร์ชัน Max อยู่ที่ $48(1,750 บาท)
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://invideo.io/ai-pricing/
12. VideoStudio Pro by Corel
อีกหนึ่งโปรแกรมตัดต่อวิดีโอระดับโปรที่มีหน้าตาใช้งานง่าย สามารถใช้ตัดได้ค่อนข้างไว และสะดวกสบาย แม้ระดับมือใหม่หัดตัดวิดีโอก็สามารถใช้ได้ แต่คุณภาพไม่ได้ด้อยแต่อย่างใด เพราะรองรับคุณภาพไฟล์ค่อนข้างสูงและรองรับการใช้งานได้หลากหลาย เป็นอีกโปรแกรมที่สามารถใช้ตัดในงานสำคัญได้
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี VideoStudio Pro by Corel ก็คือทำงานไว และง่าย แต่รองรับไฟล์งานคุณภาพสูง เป็นอีกโปรแกรมที่ค่อนข้างสะดวกครบครัน แถมยังสามารถอัปขื้นบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ทันที
ราคาสำหรับ VideoStudio Pro by Corel : มีให้ทดลองใช้ฟรี และประมาณ 3,300 บาทสำหรับแบบ Pro
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.videostudiopro.com/en/products/videostudio/pro/
แอปตัดต่อวิดีโอฟรีดีๆ ที่ควรมีติดมือถือ
13. FilmoraGo (iOS/Android)
แอปพลิเคชันที่สามารถใส่ได้ทั้งเอฟเฟกต์ ใส่เสียงประกอบ และโมชั่นกราฟิก เมื่อบันทึกเรียบร้อยสามารถกดแชร์ลงบนโซเชียลมีเดียได้ทันที เหมาะกับงานวิดีโอที่ไม่ได้นำไปใช้จริงจังมาก
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี FilmoraGo ก็คือ ฟีเจอร์ครบ ใช้งานง่าย สะดวก และไว
ราคาสำหรับ FilmoraGo : ฟรีแต่มีลายน้ำ
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://filmora.wondershare.com/filmorago-video-editing-app/
14. Adobe Premiere Clip (iOS/Android)
แอปพลิเคชันที่เรียกได้ว่า ให้การตัดต่อในระดับโปร มีฟีเจอร์ให้ใช้งานครบ สามารถซิงก์วิดีโอและโปรเจกต์ กับ Adobe Creative Cloud เพื่อตัดต่อบนคอมฯ ได้สะดวกยิ่งขึ้น
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Adobe Premiere Clip ก็คือ ฟีเจอร์ครบ เรียกได้ว่า เป็นโปรขนาดย่อ
ราคาสำหรับ Adobe Premiere Clip : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://www.adobe.com/ca/products/premiere-clip.html
15. VivaVideo (iOS/Android)
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนมือถือที่ใช้งานง่ายๆ ตัดต่อได้สบายแค่เพียงกดเลือกฟีเจอร์ต่างๆ สามารถตัดต่อ เลือกธีมสี ใส่เพลงประกอบ ปรับสปีด ใส่สติกเกอร์ และใส่ FX ฯลฯ
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี VivaVideo ก็คือใช้งานง่ายมาก ค่อนข้างเหมาะกับงานตัดวิดีโอที่ไม่จริงจัง
ราคาสำหรับ VivaVideo : ฟรี แต่มีลายน้ำเล็กๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://vivavideo.th.softonic.com/iphone
16. iMovie (iOS)
อีกโปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนมือถือไม่มีลายน้ำ ที่ใช้งานได้ดีไม่แพ้กับแบบโปรแกรมบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ด้วยฟีเจอร์ตัดต่อที่ค่อนข้างครบ ทั้งธีม เทมเพลตเทรลเลอร์ ปรับแต่งโลโก้ ใส่ซาวนด์แทร็ก และเอฟเฟกต์ต่างๆ และสามารถส่งต่อโปรเจกต์ไปยังเครื่องอื่นที่ใช้ระบบ iOS หรือ mac
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี iMovie ก็คือใช้งานง่าย ยังคงใช้งานได้ดีตามมาตรฐานของ iMovie สามารถเซฟแล้วถ่ายโอนไปตัดต่อในเครื่องอื่นได้
ราคาสำหรับ iMovie : ฟรี แต่ iOS บางรุ่นไม่สามารถโหลดได้
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://apps.apple.com/th/app/imovie/id377298193
17. KineMaster (iOS/Android)
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีที่มีคุณสมบัติครบและมักจะติดอยู่ในโผของแอปพลิเคชันตัดวิดีโอที่ดีน่าบอกต่อ เพราะด้วยความที่การใช้งานด้านการตัดวิดีโอสามารถทำได้ง่ายและได้ไฟล์ที่ออกมาค่อนข้างดี รวมถึงมี Audio Filter แปลกๆ ที่น่าเล่น
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี KineMaster ก็คือมีฟีเจอร์และเอฟเฟกต์ให้เล่นหลากหลาย และสามารถใช้งานได้หลายเลเยอร์
ราคาสำหรับ KineMaster : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://apps.apple.com/us/app/kinemaster-pro-video-editor/id1223932558
18. Splice (iOS)
โปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรีบน iOS ที่สามารถทำให้คุณตัดต่อวิดีโอได้อย่างไหลลื่น สามารถตัดได้หลายเลเยอร์ เพิ่มตัวอักษรและเอฟเฟกต์ต่างๆ สามารถรองรับคุณภาพไฟล์ได้ค่อนข้างสูง
ข้อดีของเจ้าโปรแกรมตัดต่อวิดีโอฟรี Splice ก็คือ ใช้งานง่าย ได้ไฟล์คุณภาพดี ค่อนข้างคมชัด และไม่มีลายน้ำ
ราคาสำหรับ Splice : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม : https://apps.apple.com/th/app/splice-video-editor-maker/id409838725
สำหรับใครที่เลือกโปรแกรมตัดวิดีโอฟรีดีๆ ที่ใช่และตอบโจทย์โดนใจกับการใช้งานของตัวเองได้แล้ว ก็อย่าลืมศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของโปรแกรมแต่ละตัวก่อน หรือหากเป็นไปได้ก็ลองโหลดตัวทดลองมาทดลองใช้ก่อนเสียเงินซื้อใช้จริงนะคะ เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้จะสามารถตอบโจทย์คุณได้ดีที่สุด
