SEO

5 เคล็ด (ไม่) ลับในการออกแบบ Landing Page ให้มีประสิทธิภาพ

Jutamas Lampech | สิงหาคม 16, 2023

Fast To Read

หลายๆคนอาจจะสงสัยว่า Landing Page นั้นสำคัญแค่ไหน? Landing Page เป็นหน้าของเว็บไซต์ที่เป็นส่วนสำคัญในการทำเว็บเพจ ซึ่งการทำ Landing Page ให้มีความน่าสนใจจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณเกิด Conversion ที่ดีได้ วันนี้มาทำความรู้จักกับเจ้า Landing Page ให้มากขึ้น พร้อมเผยเคล็ด(ไม่)ลับในการออกแบบ Landing Page อย่างไรให้ออกมาน่าสนใจได้ในบทความนี้

เริ่มกันที่ Landing Page คืออะไร? 

Landing Page คืออะไร? ทำไมต้องให้ความสำคัญกับส่วนนี้ “Landing Page คือ หน้าเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นมาเพื่อจุดประสงค์ของการทำการตลาดออนไลน์” เช่น มีเพื่อทำแคมเปญหรือกิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ เพื่อการโปรโมทซื้อขายสินค้า เป็นต้น หรือเอาไว้ใช้แจ้งข่าวสารต่าง ๆ ของทางแบรนด์ ซึ่งแล้วแต่วัตถุประสงค์ที่ได้จัดทำหน้า Landing Page บนเว็บไซต์ขึ้นมา การสร้าง Landing Page จึงมีความสำคัญต่อการนำไปต่อยอดด้านการโฆษณาบนโลกออนไลน์ เช่นการทำ SEO กับ SEM เพื่อให้เกิด Conversion ดังนั้นการออกแบบหน้าเว็บไซต์ Landing Page จึงเป็นขั้นตอนที่สำคัญ มาดูวิธีการออกแบบและตัวอย่าง Landing Page ให้มีประสิทธิภาพกันเถอะ

การออกแบบหน้าเว็บไซต์ต้องจับคู่สีให้เหมาะ 

สีมีความสำคัญต่อการออกแบบหน้าเว็บไซต์ Landing Page การเลือกสีให้เหมาะกับเว็บเพจจะช่วยดึงดูด คนที่คลิกเข้ามายังหน้า Landing Page ของเราได้ ทำให้คนสนใจและไม่กดออกจากหน้าเว็บเพจ ซึ่งการเลือกสีก็ได้มีงานวิจัยออกมารองรับอีกว่าสีมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อสินค้ามากถึง 80% ดังนั้นขั้นตอนการสร้าง Landing Page จะต้องใส่ใจในการเลือกสีมาใช้บนเว็บเพจเป็นพิเศษ

เลือกใช้สีโทนร้อน

สีโทนร้อนเป็นสีที่ให้ความรู้สึกกระฉับกระเฉง ช่วยดึงดูดความสนใจของผู้ที่เข้าชมเว็บเพจได้เป็นอย่างดี และยังเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นความอยากอาหารได้ด้วย ส่วนมากการเลือกใช้สีโทนร้อนในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ มักจะใช้คู่กับสีโทนเย็นและโทนเบจเพื่อที่จะได้ช่วยลดความร้อนแรงของสีลง ช่วยให้มองสบายตามากขึ้น เหมาะกับการทำ Digital Marketing เพื่อสร้าง Conversion กระตุ้นการขายสินค้าได้เป็นอย่างดี

สีโทนร้อน :  สีแดง สีเหลือง สีชมพู สีส้มเสริม

สีโทนร้อนเหมาะกับธุรกิจ : อาหาร คลินิกความงาม เทคโนโลยี ฯลฯ

เลือกใช้สีโทนเย็น

สีโทนเย็นเป็นสีที่ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย การออกแบบหน้าเว็บไซต์ด้วยสีโทนเย็น จึงทำให้ผู้เข้าชมเว็บเพจเข้ามาดูแล้วเกิดความสบายตา แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของการดึงดูดสายตา อาจไม่เหมาะกับการทำ Digital Marketing ในเรื่องของ Promotion และ  Sale สักเท่าไหร่ เนื่องจากเป็นสีที่ไม่ทำให้เกิดความตื่นเต้น แต่จะเน้นไปที่ความสบายมากกว่า จึงเหมาะกับวัตถุประสงค์ของการทำการตลาดออนไลน์แบบ Awareness มากกว่า หรือการทำแคมเปญต่าง ๆ เพราะเป็นสีที่ให้น้ำหนักด้านความน่าเชื่อถือ

สีโทนเย็น : สีฟ้า สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง

สีโทนเย็นเหมาะกับธุรกิจ : ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพ ธุรกิจสปา ธุรกิจด้านการเงิน ธนาคาร การเกษตรฯลฯ

เลือกใช้สีโทนเบจหรือแนวเอิร์ธโทน

สีโทนเบจเป็นสีโทนกลาง ๆ ที่สามารถนำไปจับคู่กับสีโทนร้อนและโทนเย็นได้อย่างกลมกลืนกัน เหมาะกับการนำไปผสมกับสีโทนต่าง ๆ เพื่อการออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้มีชีวิตชีวา ช่วยเกลี่ยสีต่าง ๆ ที่อยู่ในหน้าเว็บเพจให้มีความสมูทมากขึ้น

สีโทนเย็น : สีขาว สีดำ สีเทา สีน้ำตาล

เลือกใช้สีตาม CI ของแคมเปญนั้น ๆ 

การเลือกใช้สีโทนต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ในหน้าเว็บเพจของ Landing Page หากมีการคุมธีมแคมเปญด้วยสี CI ของแคมเปญนั้น ๆ ก็ควรเลือกใช้สีให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อที่จะได้สร้างภาพจำให้แก่แคมเปญนั้น ๆ ให้ผู้เข้าชมเกิดความสนใจ และเพื่อความต่อเนื่องในการเปลี่ยนแพลตฟอร์ม เช่นเมื่อคุณคลิกลิงก์แพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก แล้ว Landing Page มายังหน้าเว็บไซต์ที่มีโทนสีแบบที่เพิ่งได้เห็นมา ก็จะทำให้เกิดความสนใจไม่กดออกจากเว็บไซต์นั้น

สัดส่วนสีของหน้า Landing Page ที่ควรรู้

การสร้าง Landing Page จะต้องรู้จักกับหลักการใช้สีในเบื้องต้น เพื่อที่จะได้รู้สัดส่วนของสีในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ ด้วยการใช้สัดส่วน 60-30-10 ในการสร้าง Landing Page 60% คือสีที่เลือกใช้เป็นสีหลัก เพื่อคลุมภาพรวมในหน้าเว็บเพจ 30% คือสีรองที่ช่วยทำให้หน้าเว็บเพจมีมิติมากขึ้น 10% คือสีที่ใช่เน้นข้อความหรือในส่วนของ CTA (Call-to-action) เพื่อดึงดูดความสนใจให้หยุดอ่าน หรืออยากที่จะคลิกเพื่อซื้อสินค้า

ใช้คำพูดที่ดูกระชับไม่ยาวจนเกินไป

การออกแบบหน้าเว็บไซต์อย่างการสร้าง Landing Page ข้อความที่เลือกใช้ในหน้าเว็บเพจที่คลิกเข้ามาจะต้องดึงดูดผู้เข้าชมให้ได้ โดยจะต้องมีข้อความที่เป็น Super Text ที่เอาไว้ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าชม จะต้องเป็นประโยคที่เห็นแล้วน่าสนใจเพื่อช่วยส่งเสริมการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะหน้า Landing Page ที่เป็นโปรโมชั่น ซึ่งข้อความที่อยู่บนหน้าเว็บเพจจะต้องเป็นคำพูดที่กระชับไม่ยาวจนเกินไป นึกภาพหากคุณเข้ามายังหน้า Landing Page แล้วพบกับข้อความที่เป็นประโยคยาวติดกันเป็นพืด คุณยังจะนั่งอ่านทุกบรรทัดอยู่ไหม หรือเลือกที่จะปิดหน้าเว็บเพจนั้นลงเพราะรำคาญใจเมื่อเห็นข้อความเยอะไปหมด ดังนั้นการเลือกใช้คำควรเลือกใช้ให้กระชับที่สุด เน้นสื่อสารให้ผู้เข้าชมเกิดความเข้าใจในทันที 

ใช้รูปภาพบนหน้าเว็บเพจให้มาก

นอกจากสีของเว็บเพจจะช่วยดึงดูดในการออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้น่าสนใจแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการใช้รูปภาพ ที่จะช่วยให้เว็บเพจของคุณน่าสนใจมากกว่าเดิม เพราะถ้าหากคุณสร้าง Landing Page ให้มีแต่ข้อความอย่างเดียว ก็จะทำให้หน้า Landing Page ของคุณไม่น่าสนใจ โดยเฉพาะการทำการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) บนหน้าเว็บไซต์ หากหน้าเว็บไซต์ไม่มีภาพสินค้าหรือบริการอาจลดทอนความน่าเชื่อถือของ Landing Page นั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการนำเสนอโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่าง ๆ จะต้องมีภาพของสิ่งที่เราต้องการขาย ก็จะช่วยให้เกิด Conversion ได้

ออกแบบหน้าเว็บไซต์ให้เป็นแบบ Responsive Design

ในยุคนี้ที่คนสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ในอุปกรณ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน แท็บเล็ต แล็ปท็อป คอมพิวเตอร์ ฯลฯ การออกแบบหน้าเว็บไซต์ โดยเฉพาะการสร้าง Landing Page จะต้องคำนึงถึงสัดส่วนของภาพที่แสดงในแต่ละอุปกรณ์ ที่มีสัดส่วนของการแสดงภาพที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการสร้าง Landing Page ควรทำให้เป็นแบบ Responsive Design ที่เข้ากับขนาดของหน้าจอบนอุปกรณ์ทั้งหลาย ต่อให้เข้าหน้าเว็บเพจจากในอุปกรณ์ไหนก็ตามภาพที่แสดงในอุปกรณ์นั้น ๆ ก็ยังคงความสวยงาม ป้องกันไม่ให้หน้าเว็บเพจเบี้ยวได้ ซึ่ง Responsive Design คือการเขียนเว็บไซต์โดยกำหนด HTML และใช้ CCSS ในการปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เหมาะกับหน้าจอของอุปกรณ์ต่าง ๆ

CTA (Call-to-Action) ที่ขาดไม่ได้

สิ่งสุดท้ายที่เหมือนจะเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ แต่เป็นจุดที่สร้าง Conversion ได้ดีทีเดียว นั้นก็คือ ปุ่ม CTA (Call-to-Action) ที่เป็นหัวใจสำคัญของ การทำ Digital Marketing โดยส่วนประกอบของปุ่ม CTA จะต้องมีคำที่ดึงดูดชวนให้อยากคลิก โดยจะต้องเป็นคำสั้น ๆ แต่สื่อความหมายตรงไปยังผู้เข้าชมเว็บเพจ ส่วนสีที่ใช้ในการออกแบบในส่วนของ CTA จะต้องเลือกใช้สีที่เข้มและโดดเด่นกว่าส่วนอื่น ๆ ในหน้าเว็บเพจ โดยส่วนมากนิยมเลือกใช้สีแดงเพราะเป็นสีที่ดึงดูดสายตาได้ดีที่สุด และยังเป็นสีที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้ที่เข้ามาชมเว็บเกิดการตื่นตัว การออกแบบหน้าเว็บไซต์ในส่วนของ CTA จะต้องเน้นความสะดุดตาจึงจะสร้าง Conversion ให้เกิดขึ้นได้

บทสรุป

การออกแบบหน้าเว็บไซต์อย่างหน้า Landing Page จะต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ อย่างที่ได้แนะนำไปในตัวอย่าง landing page ที่ดีในข้างต้นต้องมีอะไรบ้าง เพราะเว็บเพจอย่าง Landing Page เป็นเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ หรือ Digital Marketing ได้เป็นอย่างดี หากคุณออกแบบ Landing Page ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Conversion ก็จะสูงตาม ลองนำเคล็ด(ไม่)ลับที่เราได้แนะนำไปทั้ง 5 ข้อไปปรับใช้กับการสร้าง Landing Page ของคุณ ซึ่งสำหรับใครที่อยากเว็บไซต์ที่มีหน้า Landing Page เป็นของตัวเอง แต่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญในการสร้างด้วยตัวเอง สามารถใช้บริการรับทำ Landing Page ได้เลย แต่ถ้าคุณได้อ่านบทความนี้จนจบ รับรองว่าคุยกับผู้ออกแบบเว็บเพจรู้เรื่องในระดับหนึ่ง ไม่งงแน่นอน

Written By

Jutamas Lampech
เมย์เริ่มงานสาย Online Marketing มาได้มาได้มากกว่า 3 ปีแล้ว และยังคงศึกษางาน SEO และ Online Marketing ต่อไป ด้วยเป็นเด็กสายวิทย์ที่ชอบการอ่านมากกว่าฟัง ชอบวิเคราะห์ มีความขี้สงสัยและต้องค้นหาเหตุผลให้เจอ ยังคงหลงใหลในศิลปะการทำอาหาร สุดท้ายแล้วขอให้แมวจรทุกตัวมีบ้านค่ะ

Leave A Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Views

Get New Articles Monthly!

Recommend Article

Free SEO
Consultation

Claim your revenue growth strategy session valued at ฿35,000 – absolutely FREE!

Limited spots available !

Let’s talk

Got an idea in your mind? Pop your info into our form
and we will get back to you shortly.