การสร้างเนื้อหา บทความเพื่อดึงดูดให้ผู้ชม ผู้อ่านมาสนใจธุรกิจของคุณถือเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าอยากให้เกิดการมีส่วนร่วมที่มากขึ้น เช่น ตัดสินใจซื้อสินค้า สมัครสมาชิก ทักสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คุณจำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และเนื้อหาที่ดึงดูดใจผู้ชม ผู้อ่านที่มากพอ หรือที่ทางการตลาดออนไลน์เรียกว่า CTA นั่นเอง โดย CTA ย่อมาจากคำว่า Call to Action ถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำการตลาด หรือนำเสนอข้อมูลธุรกิจในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ซึ่งจริง ๆ แล้ว Call to Action คืออะไร และมีวิธีเขียน Call to Action ยังไงให้ลูกค้าอยากคลิกนั้น วันนี้ Search Studio รวบรวมมาให้แล้ว ตามมาอ่านพร้อม ๆ กันได้เลยค่ะ
CTA (Call to Action) คืออะไร?
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร1-1024x512.jpg)
CTA ย่อมาจาก Call to Action คือคำ วลีหรือประโยคสั้น ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของโฆษณา เนื้อหาของธุรกิจนั้น ๆ เกิดการมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น ไม่ว่าจะกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจเข้าชมเว็บไซต์ ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้า หยิบสินค้าใส่รถเข็น หรือแม้แต่สมัครสมาชิกเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ซึ่งอาจมาในรูปแบบข้อความ หรือมีการทำเป็นปุ่มกราฟิกสวยงามเพิ่มความดึงดูดใจ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของธุรกิจนั้น ๆ หรือออกแบบให้เหมาะสมแต่ละแพลตฟอร์ม
5 เทคนิคการสร้าง Call to Action CTA ยังไงให้ลูกค้าอยากคลิก
1. เลือกใช้คำสั้น กระชับ ทรงพลัง
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร2-1024x683.jpg)
เพราะปุ่ม Call to Action เป็นกลยุทธ์ที่ต้องดึงดูดใจแก่ผู้ชมผู้อ่านมากที่สุด จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้คำที่สั้นประมาณ 3-5 คำก็เพียงพอ และมีความกระชับ ทรงพลัง มีความโดดเด่นกระแทกตาเตะใจ ช่วยกระตุ้นให้อยากคลิก ไม่ว่าจะเป็น ซื้อเลย ช็อปเลย เรียนรู้เพิ่มเติม
2. ปุ่ม Call to Action ต้องโดดเด่น แตกต่างกว่าปุ่มอื่น ๆ
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร3-1024x768.jpg)
ในเว็บไซต์ หรือช่องทางสื่อการโปรโมทต่าง ๆ ของแต่ละธุรกิจในหนึ่งหน้า จะมีปุ่มมากมายให้เลือกกดเพื่อเรียนรู้ หรือหาข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติม ฉะนั้นปุ่ม Call to Action จึงจำเป็นต้องมีการออกแบบที่โดดเด่นและแตกต่างกว่าปุ่มอื่น ๆ ที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ อาจเลือกสีสันที่กระแทกตา หรือมีการจัดวาง Layout ที่แปลกตาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการคลิกที่ง่ายดายมากขึ้น
3. เพิ่มความดึงดูดด้วยสิทธิพิเศษ เร่งด่วนด้วยระยะเวลา
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร4-1024x731.jpg)
การทำให้คนอ่านอยากคลิกปุ่ม Call to Action อีกเทคนิคก็คือการใช้เทคนิคพิเศษที่เรียกว่า FOMO หรือ Fear of Missing Out พยายามรวบรัดการตัดสินใจผู้ใช้งานด้วยการใช้คำ หรือวลีที่ช่วยเพิ่มแรงกระตุ้น เช่น ช็อปด่วน จำนวนจำกัด หรือใส่ระยะเวลาที่แน่นอน พร้อมสิทธิพิเศษที่ลูกค้าไม่ควรพลาดเมื่อกดปุ่ม CTA
4. เลี่ยงการใช้คำเทคนิคเฉพาะ
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร5-1024x557.jpg)
มากไปกว่าการเลือกคำที่สั้นกระชับทรงพลังแล้ว ก็จำเป็นต้องเลือกคำ หรือวลีที่สามารถเข้าใจได้ง่าย ปราศจากคำศัพท์เทคนิคเฉพาะที่อาจก่อให้เกิดความสับสน หรือเข้าใจผิดได้ เพราะถ้าหากใช้คำศัพท์เทคนิคมากเกินไป ผู้อ่านอาจจะต้องเสียเวลาไปหาข้อมูลความหมายเพิ่มเติม ก่อนหนีหายไม่ตัดสินใจคลิกปุ่ม CTA และกลายเป็นเราที่สูญเสียลูกค้าไปในที่สุด
5. สร้าง Call to Action มากกว่า 1 จุด
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร6-1024x746.jpg)
ใน 1 หน้าเว็บไซต์ที่อาจมีเนื้อหาเยอะ ความยาวมากกว่า 1 หน้ากระดาษ A4 จำเป็นมากที่จะต้องเลือกใช้ Call to Action มากกว่า 1 จุด เพื่อช่วยให้ลูกค้าได้มีระยะเวลาในการตัดสินใจ เช่น ปุ่ม CTA อันแรกอาจเป็นการคลิกเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม แต่ปุ่ม CTA มาเป็นปุ่มสำหรับปิดการขายโดยเฉพาะ
Call to Action ตัวอย่างเลือกให้เหมาะสมกับคอนเทนต์
![CALL TO ACTION คืออะไร](https://searchstudio.digital/wp-content/uploads/2023/10/CALL-TO-ACTION-คืออะไร7-1024x683.jpg)
สำหรับการสร้างปุ่ม Call to Action ขึ้นมานั้นก็เพื่อหวังให้คนที่เข้ามาอ่าน มาชมเว็บไซต์เกิดการมีส่วนร่วม แต่ในแต่ละธุรกิจนั้นก็มีวัตถุประสงค์ในการสร้างปุ่มนี้ขึ้นมาแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น
- Call to Action สำหรับปิดการขาย ซึ่งเน้นการทำยอดขาย พบได้บ่อยในพวกธุรกิจ E-Commerce โดยมีการใช้ภาษาที่สั้นกระชับ กระตุ้นการซื้อบนปุ่ม Call to Action ตัวอย่างเช่น Buy Now, ช็อปด่วน ช็อปเลย, ซื้อเลย, หยิบใส่รถเข็น, หยิบใส่ตะกร้า
- Call to Action เพื่อเก็บเป็นข้อมูลติดต่อกลับ และกลายเป็นลูกค้าคนสำคัญในอนาคต เช่น คลิกเพื่อสมัครสมาชิก, ลงทะเบียนรับข่าวสาร, สมัครวันนี้ รับสินค้าทดลองฟรี!
- Call to Action สำหรับการหาข้อมูลเพิ่มเติม เช่น Read More Learn More อ่านเพิ่มเติม คลิกเพื่อดูเพิ่มเติม
- Call to Action เพื่อให้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ หรือรับข้อมูลบริการเพิ่มเติม จะมีปุ่ม Call to Action ตัวอย่างเช่น ปรึกษาฟรี, ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี, พูดคุยกับเรา, ทักหาแอดมินด่วน, Message Us
บทส่งท้าย
เรียกได้ว่า Call to Action ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์ในการทำการตลาดที่ควรค่าแก่การทำเป็นอย่างมาก เพราะมีประสิทธิภาพในการสร้างโอกาสการขาย เพิ่มสมาชิกในธุรกิจและองค์กร ตลอดจนตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในการค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ ผ่านช่องทางสื่อสารของคุณได้เป็นอย่างดี และเพื่อให้การทำ Call to Action เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพนั้นควรอาศัยรูปแบบคอนเทนต์การนำเสนอที่น่าสนใจ และการออกแบบกราฟิกที่น่าดึงดูดใจร่วมด้วย เท่านี้ก็รับรองว่าจะช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจของคุณก้าวหน้าไปอีกขั้นแล้วล่ะค่ะ