เมื่อเราพูดถึง “Search Volume” อาจจะมีหลายคนที่สงสัยและยังไม่เข้าใจความหมายชัดๆ เนื่องจาก Search Volume มีความสำคัญสำหรับนักการตลาดออนไลน์หรือนักทำ SEO เป็นอย่างมาก เพราะช่วยให้เข้าใจถึงความนิยมและความต้องการของผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาต่าง ๆ ดังนั้น บทความนี้เราจะมาทำความรู้จัก Search Volume กันให้มากขึ้น เพราะ Search Volume สำคัญมากกับการทำการตลาดออนไลน์ ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
Search Volume คืออะไร?
Search Volume คือ ปริมาณการค้นหาของคำบนเครื่องมือค้นหา ( Search Engine) เช่น Google หรือ Bing ในระยะเวลาที่กำหนด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักการตลาดหรือนักทำ SEO นิยมใช้เพื่อประเมินความนิยมและความต้องการของคำค้นหาในตลาดออนไลน์ Search Volume จะบ่งบอกว่ามีกี่คนที่กำลังค้นหาคำหรือวลีนั้น ๆ ในเครื่องมือค้นหา ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกแสดงเป็นตัวเลขต่อเมื่อทำการค้นหาด้วยเครื่องมือค้นหาที่ใช้งานมาก เช่น Google Keyword Planner หรือผลลัพธ์ค้นหาจาก Google Search Console เป็นต้น
ในมุมของคนทำการตลาดออนไลน์ เราจำเป็นต้องรู้ว่า Search Volume ของคำที่เกี่ยวข้องกับเว็บเรานั้นมีเยอะเท่าไร และในบรรดาคำที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คำไหนมี Search Volume มากที่สุด เพื่อเลือกคำนั้นมาเป็น Keyword หลักในการป้อนเนื้อหาเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา
เหตุผลที่ควรเลือก Keyword จาก Search Volume คืออะไร?
เหตุผลที่สำคัญก็เพื่อให้เว็บเราติดอันดับ พูดแค่นี้หลายคนอาจยังไม่เห็นภาพ ขออธิบายชัดๆ แบบนี้ดีกว่า จากที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า Search Volume คือ จำนวนการค้นหาคำนั้นๆ นั่นก็หมายถึงคำไหนที่มี Search Volume สูง ก็แปลว่าจำนวนการค้นหาคำนั้นเยอะนั่นเอง ตรงกันข้ามหากคำไหน Search Volume ต่ำ ก็แปลว่าคนค้นคำนั้นน้อย เหตุผลสำคัญที่ควรกำหนด Keyword จาก Search Volume ก็เพื่อให้คนหาเว็บเราเจอหรือหาบทความบนเว็บไซต์เจอนั่นเอง
ยกตัวอย่าง หากมีธุรกิจหนึ่งให้บริการที่พักใกล้กับเมืองทองธานี และต้องการสร้างเว็บไซต์โปรโมทให้คนรู้ว่ามีที่พักแห่งนี้อยู่ ก็ควรจะป้อนเนื้อหาหรือข้อมูลที่มีคำที่ถูกค้นเยอะ และเป็นคำที่เกี่ยวกับที่พักย่านเมืองทองธานี ลองเดาก่อนเลยว่าคนที่เขากำลังหาที่พักเขาจะค้นคำไหนบ้าง เช่น ที่พัก เมืองทอง, โรงแรม เมืองทอง, ที่พัก ปากเกร็ด, ที่พักย่านเมืองทอง เป็นต้น คำเหล่านี้ถือเป็นสมมติฐานเบื้องต้นของเราเอง
จากนั้นเอาคำพวกนี้ไปหาจำนวน Search Volume ว่าคำไหนคนค้นหาเยอะสุด สามารถหาได้จากเครื่องมือหลากหลายซึ่งจะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป เบื้องต้นพบว่าคำที่มีการค้นหาสูง ได้แก่ ที่พัก เมืองทอง และ โรงแรม เมืองทอง ก็เลือกเอาคำใดคำหนึ่งเป็น Keyword หลัก และอีกคำเป็น Keyword สำรองไป
เมื่อกำหนดแล้วเวลาเขียนเนื้อหาโปรโมทลงในเว็บไซต์ ก็ให้ใส่คำที่เป็น Keyword ลงไปเยอะๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บเราติดอันดับ ช่วยให้คนที่กำลังหาที่พักย่านเมืองทอง ค้นหาบนเว็บไซต์แล้วเจอที่พักของเราได้ง่ายๆ
มาถึงตรงนี้หลายคนน่าจะได้คำตอบแล้วว่าเหตุผลของการกำหนด Keyword จาก Search Volume คืออะไร ทีนี้ไปดูเครื่องมือที่สามารถดูค่า Search Volume ได้กันบ้างดีกว่า
เครื่องมือที่แสดง Search Volume มีอะไรบ้าง?
คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ จะรู้ได้ยังไงว่าคำไหนมี Search Volume สูงหรือต่ำ? เพื่อกำหนด Keyword ให้ถูก ซึ่งในส่วนนี้ที่จริงแล้วมีเครื่องมือช่วยอยู่ ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ในบทความนี้เราก็ได้เอาเครื่องมือมาแนะนำ ได้แก่
- Google Trend
Google Trendแสดงแนวโน้มของคำค้นหาต่างๆ ในช่วงเวลาที่กำหนด โดยสามารถเปรียบเทียบคำค้นหาหลายๆ อย่างพร้อมกันได้
- Whatsmyserp
เครื่องมือชนิดนี้ฟรี โดยให้ค้นว่า Whatsmyserp แล้วคลิกเข้าไปในเว็บ จากนั้นคลิกปุ่ม Add to Chrome เพื่อติดตั้ง หลังจากนั้นเวลาเข้า Google แล้วค้นคำว่าอะไร ท้ายคำค้นก็จะขึ้นจำนวน Search Volume ให้ อีกทั้งยังมีกรอบแนะนำคำที่เกี่ยวข้องคำอื่นๆ มาให้ด้วย
- Ubersuggest
เป็นเครื่องมือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการค้นหา (Search Volume) และคำแนะนำในการเลือกคำค้นหาสำหรับการทำ SEO และการตลาดออนไลน์
- Google Keyword Planner
เครื่องมือนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Google Ads ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับการโฆษณาออนไลน์บน Google สามารถเข้าถึง Google Keyword Planner ผ่านบัญชี Google Ads โดยเข้าไปที่เมนู “Tools & Settings” และเลือก “Keyword Planner” จากนั้นสามารถใช้เครื่องมือนี้เพื่อวิเคราะห์คำค้นหาและวางแผนการโฆษณาของคุณบน Google Ads ได้
บทสรุป
เป็นยังไงกันบ้างสำหรับบทความ Search Volume เราหวังว่าบทความนี้ที่เรานำมาฝากจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านหรือผู้ที่เริ่มต้นทำ SEO ทั้งนี้เราควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดให้เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการ โดยพิจารณาจาก Search Volume ซึ่ง Search Volume คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจในการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมที่สุดต่อการทำการตลาดออนไลน์ทั้งแบบ SEO และ SEM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้จำนวนมาก เพื่อสร้างเนื้อหาในเว็บไซต์ที่มีคุณภาพมากพอในการติดอันดับและประสบความสำเร็จได้มากที่สุดนั่นเอง
