คุณรู้หรือไม่ว่า Website Structure คืออะไร? นี่คือพื้นฐานเบื้องต้นหากคุณต้องการสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ยิ่งเป็นเว็บไซต์สำหรับธุรกิจแล้ว ในปัจจุบันถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเอามาก ๆ หากธุรกิจของคุณมีเว็บไซต์ที่มีคุณภาพดีมากพอ จะช่วยทำให้เกิดการเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และเว็บไซต์คือเครื่องมือทางการตลาดที่เห็นผลได้อย่างชัดเจนมากที่สุดอีกอย่าง ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกับหลักการของเว็บไซต์ให้มากขึ้น วางพื้นฐานให้กับโครงสร้างอย่างไรให้ออกมามีประสิทธิภาพสูงที่สุด ไปติดตามพร้อม ๆ กันเลย
Website Structure คืออะไร?
หากเปรียบเทียบการสร้างเว็บไซต์ เข้ากับการสร้างบ้าน Website Structure คือ “โครงสร้างของเว็บไซต์” ที่ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างที่แม้ว่าจะไม่ได้เห็นอย่างชัดเจน แต่ก็มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ทั้งเว็บไซต์นั้นออกมามีประสิทธิภาพสูงที่สุด ซึ่งแต่ละเว็บไซต์จะมีโครงสร้างที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สร้าง ไปจนถึงความเหมาะสมของเว็บไซต์นั้น ๆ หากให้อธิบายถึงโครงสร้างของเว็บไซต์ให้เข้าใจง่ายที่สุด อยากให้ผู้อ่านลองนึกภาพถึง “แผนภาพต้นไม้” ซึ่งจะเป็นการแสดงแนวคิดของโครงสร้างภายในเว็บไซต์ออกมาได้ชัดเจนมากที่สุด
4 รูปแบบของโครงสร้างของเว็บไซต์ที่พบได้บ่อยที่สุด
การสร้างเว็บไซต์ไม่ใช่แค่ว่าสร้างออกมาให้สวยงามเพียงเท่านั้น แต่ต้องมีการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ ให้ออกมาอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมากที่สุด ซึ่งตามหลักการสร้างที่เป็นที่นิยมในขณะนี้ จะสามารถแบ่งการออกแบบเว็บไซต์ได้ 4 รูปแบบ ดังนี้
1. Linear Structure
เป็นโครงสร้างแบบเส้นตรง ไม่ซับซ้อน ซึ่งจะเป็นลำดับของหน้าเว็บไซต์ 1 ไป 2 ไป 3 ไป 4 เหมือนกับหน้าของหนังสือ เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีหน้าเพจไม่เยอะ มักพบในเว็บไซต์ประเภทให้ความรู้, E-Book หรือสื่อการสอนรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น
2. Hierarchical Structure
เป็นโครงสร้างที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด เป็นการนำเอาโครงสร้างต้นไม้มาประยุกต์ใช้ มีการแบ่งหมวดหมู่ แบ่งหัวข้อย่อยอย่างชัดเจน สามารถจัดการเนื้อหาจำนวนมากได้อย่างเป็นระเบียบ แต่จะต้องอาศัยการออกแบบที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ
3. Web Linked Structure
คือโครงสร้างเว็บไซต์ที่ค่อนข้างยืดหยุ่นมากที่สุด วัตถุประสงค์มีเพียงการกลับมาที่หน้าหลักของเว็บไซต์เท่านั้น จะไม่มีการเรียงลำดับใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งเหมาะกับเว็บไซต์ที่มีหน้าเพจไม่มาก ซึ่งมักไม่เป็นที่นิยมสักเท่าไหร่นัก
4. Hybrid Structure
เป็นโครงสร้างที่ได้รับการผสมผสานระหว่าง 2 รูปแบบขึ้นไป ซึ่งจะได้รับจุดเด่นของแต่ละโครงสร้างมาอย่างชัดเจน เป็นการออกแบบที่ค่อนข้างยืดหยุ่น และกำหนดให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้เข้าชมได้อย่างตรงจุด แต่กลับกันก็อาจทำให้เกิดข้อเสียในด้านความซับซ้อนของเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกัน
สิ่งที่คุณจะได้ตอบแทน จากการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์
จากเนื้อหาข้างต้น คงทำให้คุณได้เห็นถึงความสำคัญ ของโครงสร้างของเว็บไซต์ไปไม่มากก็น้อย เว็บไซต์ที่มีคุณภาพดีย่อมเกิดจากโครงสร้างที่ดี แต่ข้อสงสัยที่อาจเกิดขึ้นกับคุณในตอนนี้คือ “ถ้าภายในเว็บไซต์มีโครงสร้างที่ดี แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับเว็บไซต์บ้าง ?” สำหรับข้อสงสัยนี้เราหาคำตอบมาฝากเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และต่อจากนี้คือสิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังจากที่คุณออกแบบเว็บไซต์ด้วยโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพ
1. ส่งผลดีโดยตรงต่อการทำ SEO
เมื่อพูดถึงการสร้างเว็บไซต์ เรื่องของการทำ SEO ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก ๆ เลยทีเดียว เพราะนี่คือสิ่งที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าการสร้างเว็บไซต์ของคุณ จะประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด การที่คุณจัดการให้โครงสร้างของเว็บไซต์ เป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็น มีการเรียงลำดับเพจต่าง ๆ อย่างชัดเจน มีการเชื่อมโยงกันได้อย่างเป็นระเบียบ จะช่วยให้ Bot ของ Google รู้จักกับเว็บไซต์ของคุณมากยิ่งขึ้น และนั่นจะส่งผลดีโดยตรงต่อการทำ SEO มากกว่าเว็บไซต์ที่ไม่มีการจัดการในด้านของโครงสร้างของเว็บไซต์ที่ได้คุณภาพ
2. ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของข้อมูลบนเว็บไซต์
การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ ช่วยทำให้ข้อมูลที่มีอยู่มากมายภายในเว็บไซต์ กลายเป็นชุดข้อมูลที่ได้รับการเรียบเรียงมาแล้ว ข้อมูลสำคัญต่าง ๆ จะถูกเรียงลำดับตามหมวดหมู่ มีการแสดงลำดับชั้นของข้อมูลเป็นอย่างดี หากอยากรู้ว่ามันดีเพียงใด ลองให้คุณนึกภาพถึงคุณที่กำลังอ่านหนังสือที่ไม่ได้เย็บเล่ม และจะต้องคอยหาว่าเนื้อหาหน้าถัดไปอยู่ที่ไหน มันคงน่าเบื่อเอามาก ๆ อย่างแน่นอน นั่นเป็นประสบการณ์ที่ไม่ต่างกัน กับการที่คุณเล่นเว็บไซต์ที่ไม่ได้มีการจัดการโครงสร้างให้เรียบร้อยนั่นเอง
3. สร้างเส้นทางที่เข้าใจง่ายที่สุด ให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์
หากเว็บไซต์ของคุณคือเมืองขนาดใหญ่สักแห่งหนึ่ง Website Structure คือ “การวางผังเมือง” การจัดวางเส้นทางให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ช่วยทำให้การเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ นั้นทำได้อย่างง่ายดาย หากคุณเคยเห็นผังเมืองของเมืองบาร์เซโลน่าของสเปน คุณคงมีความรู้สึกว่า อยู่ในเมืองแห่งนี้เดินทางอย่างไรก็ไม่มีหลง ยังไงก็สามารถกลับไปที่ใจกลางเมืองได้เสมอ นั่นก็เช่นเดียวกันกับการสร้างเว็บไซต์ให้มีโครงสร้างที่ดี เพราะผู้ใช้สามารถกลับมาสู่หน้าที่ต้องการได้ทุกเมื่อ ไม่ทำให้ผู้ใช้งานเกิดความรู้สึกเบื่อจนปิดเว็บไซต์ทิ้งไปเสียดื้อ ๆ อีกด้วย
4. เว็บไซต์ได้ทำตามวัตถุประสงค์ที่ถูกสร้างมาได้มากที่สุด
มีข้อมูลระบุว่า “Conversion Rate” ของเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น หลังจากจัดการโครงสร้างของเว็บไซต์ให้ถูกต้อง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่ผู้สร้างเว็บไซต์ทุกคนต้องการ Conversion Rate หากมีตัวเลขที่น่าพึงพอใจก็จะทำให้วัตถุประสงค์ของการสร้างเว็บไซต์นั้น ๆ บรรลุได้ในเวลาเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น การสร้างเว็บไซต์เพื่อขายสินค้า หากสามารถทำให้ผู้ใช้อยู่ภายในเว็บไซต์ และจบลงที่การซื้อสินค้า เป็นต้น การที่กระบวนการเหล่านี้จะเกิดขึ้น มักจะต้องเริ่มต้นจากการจัดการเว็บไซต์ให้มีโครงสร้างที่ดีเสียก่อน
5. ความเร็วของการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น
การออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี มักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษของเว็บไซต์ในด้านอื่น ๆ “ความเร็ว” เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้โดยเด็ดขาดของการสร้างเว็บไซต์ หากเว็บไซต์ของคุณมีความสวยงาม เนื้อหาน่าสนใจมากก็จริง แต่เมื่อคลิกแต่ละทีแล้วเกิดการโหลด หมุน ติ้ว ๆ ๆ ๆ ก็ทำให้ผู้ใช้งานที่เข้ามาไม่อยากใช้เว็บไซต์ของคุณต่อ ดังนั้นการจัดการโครงสร้างของเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ จะช่วยทำให้ปัญหาเว็บไซต์ช้า เว็บไซต์อืดลดน้อยลง และจะส่งผลดีในภาพรวมไปสู่เรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย
โครงสร้างของเว็บไซต์ที่ดี ควรมีลักษณะเป็นอย่างไร
ในช่วงท้ายของบทความ เรามั่นใจว่าคุณคงได้รู้กันไปแล้วว่า ความสำคัญของ Website Structure คืออะไร และ ได้รู้แล้วว่าเว็บไซต์ที่ได้รับการวางโครงสร้างที่ดี จะมอบสิ่งดี ๆ อะไรกลับมาให้ได้บ้าง ดังนั้นเพื่อให้เนื้อหาบทความนี้สมบูรณ์แบบมากที่สุด เรามาทำความรู้จักกับตัวอย่างของ “เว็บไซต์ที่มีโครงสร้างที่ดี” กันดีกว่า ว่าจะต้องมีลักษณะอย่างไรบ้าง
- มีการแสดงลำดับที่ชัดเจน ควรมีการจัดการเนื้อหาโดยแบ่งเป็นลำดับอย่างชัดเจน ตามรูปแบบของโครงสร้างที่เลือก ยกตัวอย่างเช่น โฮมเพจ > สินค้า > ชุดกีฬา > กางเกงบอล เป็นต้น
- URL ที่สื่อความหมาย การสร้าง URL ที่ดีควรมีความหมายที่ชัดเจน เป็นคำที่สามารถอ่านแล้วเข้าใจถึงสินค้าในหน้านั้น ๆ เพราะช่วยทำให้ Google รู้ว่าหน้านั้น ๆ เป็นสินค้าอะไร ส่งผลดีต่อการทำ SEO เป็นอย่างมาก
- มีการนำทาง บนเว็บไซต์ควรมี “เบรดครัมบ์ (Breadcrumbs)” ซึ่งเป็นการนำทางให้กับผู้ใช้ได้รู้เส้นทางที่ตนเองผ่านมา ตั้งแต่หน้าแรกไปจนถึงตำแหน่งปัจจุบัน ซึ่งมักจะมาในรูปแบบ โฮมเพจ > สินค้าผู้ชาย > กางเกงยีนส์ เป็นต้น
- เชื่อมโยงกันด้วย Internal Link โครงสร้างเว็บไซต์ที่ดี ควรมีการเชื่อมโยงกันภายในเว็บไซต์ นอกจากช่วยทำให้ผู้ใช้งานมีความเข้าใจในเนื้อหาบนเว็บไซต์แล้ว ยังทำให้ Bot ของ Google เข้าใจรูปแบบเว็บไซต์ได้มากขึ้นอีกด้วย
- ทุก ๆ เพจควรมีวัตถุประสงค์อันชัดเจน ในทุก ๆ เพจควรมีการแสดงวัตถุประสงค์อันชัดเจน เช่น หน้าสินค้า ควรมีสินค้าให้เลือกซื้อ, หน้าติดต่อ ควรมีข้อมูลติดต่อแสดงเอาไว้อย่างเด่นชัด เป็นต้น
- โครงสร้างไม่ควรซับซ้อนจนเกินไป สุดท้ายนั้นการจัดโครงสร้างไม่ควรมีความซับซ้อนเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ใช้เริ่มรู้สึกเบื่อ หากสิ่งที่อยากนำเสนอหากอยู่ในลำดับที่ลึกมากจนเกินไป อาจทำให้หน้านั้น ๆ มักไม่ได้รับการเข้าชมสักเท่าไหร่อีกด้วย
บทส่งท้าย
เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณได้รู้จักว่า Website Structure คืออะไร สำคัญมากน้อยแค่ไหนต่อการสร้างเว็บไซต์ เพราะการสร้างเว็บไซต์นอกจากความสวยงาม และ เนื้อหาที่มีประสิทธิภาพแล้ว การออกแบบเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เว็บไซต์นั้น ๆ ประสบความสำเร็จได้ แม้จะดูเหมือนเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากในช่วงเริ่มต้น แต่รับรองเลยว่าเมื่อระยะเวลาผ่านไป มันจะผลิดอกออกผลมาเป็นผลลัพธ์ที่คุณจะต้องพึงพอใจอย่างแน่นอน
